บทนำ
สูงและลึกเข้าไปในความมืดมิดของอวกาศและมิติ ท่ามกลางความมืดมิด หญิงสาวนางหนึ่งที่มีใบหน้าสะสวยกำลังจดจ้องไปยังทิศทางหนึ่ง ซึ่งไม่มีใครรู้ว่านางกำลังมองสิ่งใด ก็ในเมื่อสิ่งที่นางมอง มันก็คือความมืดมิดเช่นเดียวกับสิ่งรอบกายนาง
"สวัสดีท่านไกอา กำลังทำอะไรอยู่เหรอ"
ระหว่างนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น เขาแต่งตัวด้วยชุดที่ดูแปลกตาและดูราวกับเด็กวัยรุ่น ซึ่งด้วยความที่เขาปรากฏขึ้นตรงหน้านาง ก็ทำให้นางตกใจน้อยๆ
"ท่าน!! นี่ท่านทำให้ข้าตกใจนะ"
"แหม ผมก็เห็นท่านหน้าเครียดก็เลยจะแกล้งซะหน่อย แล้ว . .. อะไรกันที่ทำให้ท่านหน้าเครียดได้"
ว่าแล้วก็หันไปมองทิศทางเดียวกับนาง แม้ว่ามันจะมืดมิดและไม่มีอะไรเลย แต่ก็เหมือนว่าเขาจะสามารถมองเห็นบางอย่างได้ และเหมือนจะสนใจน้อยๆ
"ข้าเริ่มสงสัยแล้วว่า การที่ข้าสร้างเผ่าพันธุ์มากมายขึ้น มันดีแล้วใช่หรือไม่"
คิดถึงสิ่งที่กำลังมองอยู่เมื่อครู่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างหัวเสีย ต่างจากเด็กหนุ่มที่ตอนนี้นั้นกำลังมองด้วยความสนใจ
"ไม่ต้องคิดมากไปหรอกท่านไกอา นั่นมันก็แค่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของพวกเขาเท่านั้น"
"สัญชาตญาณการเอาตัวรอด? ท่านกำลังหมายถึงสิ่งใดกัน"
เหมือนว่านางจะไม่รู้เลยว่าสิ่งที่นางสร้างขึ้นมานางให้อะไรกับพวกเขาไปบ้าง
"สิ่งมีชีวิตจะมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดมาแต่กำเนิด นั่นคือสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ การที่พวกเขากำลังต่อสู้กันก็เพื่อความอยู่รอด หากไม่ทำ ก็จะเป็นพวกเขาเองที่ต้องหาย"
"ถ้างั้นข้าจะเอาสิ่งนั้นออก แบบนั้นพวกเขาคงจะสามารถอยู่ร่วมกันได้"
ว่าแล้วนางก็เริ่มกระบวนการทันที แต่ยังไม่ทันได้เริ่ม เด็กหนุ่มก็ขัดขวางนางเข้าเสียก่อน
"อย่าเลยท่านไกอา ถ้าท่านทำแบบนั้น กาเดเนียร์จะตายเพราะฝีมือพวกเขา"
"แต่แบบนั้นพวกเขาจะฆ่ากันไม่จบไม่สิ้น ดีไม่ดีพวกเขาจะตายกันหมดนะท่าน"
"ดีแล้วท่าน พวกเขาไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะเลือกอยู่ในกาเดเนียร์ แต่กาเดเนียร์ต่างหากที่มีสิทธิ์นั้น ถ้าจะให้ข้าเปรียบ ก็เหมือนพวกท่านที่มีสิทธิ์มีอำนาจในจักรวาลนี้ไงล่ะ"
แม้รอยยิ้มที่เขายิ้มออกมามันจะดูไร้เดียงสาเพียงใด แต่มันก็ดูน่าเกรงขามมากพอๆ กัน แม้นางจะไม่อยากยอมรับ แต่พอมาคิดอีกที ถ้ามีหลายเผ่าพันธุ์ในกาเดเนียร์ ประชากรก็จะมาก ความต้องการในการใช้ทรัพยากรก็จะสูง แม้กาเดเนียร์จะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ แต่ถ้ามากเขาก็ไม่อาจทนทานได้
"เฮ้อ ข้าเข้าใจแล้ว"
"ผมว่าแล้วว่าท่านต้องเข้าใจ จริงสิ ผมให้ท่านเพิ่มบางสิ่งลงในกาเดเนียร์ด้วยได้หรือไม่"
"ถ้าไม่ยากจนเกินความสามารถข้า ก็ย่อมได้"
ได้ยินแบบนั้น เด็กหนุ่มก็ยิ้มออก โต๊ะทำงานที่เป็นโต๊ะประจำของเขาปรากฏขึ้น เขาลงมือทำอะไรบางอย่างก่อนจะหันอุปกรณ์สี่เหลี่ยมที่มีภาพบางอย่างฉายออกมามาทางนาง
"เอ่อ- ท่านมหาเทพ สิ่งนี้คือ?"
มันเป็นรูปของสัญลักษณ์ วงกลม และบทความประหลาดมากมายนับไม่ถ้วน ภาพพวกนี้คืออะไรกัน
"ผมอยากให้ท่านเพิ่มพวกนี้เข้าไป เพื่อไม่ให้ไปเหมือนกับดาวของมาเรีย"
"ห้ะ!! นี่ภูมิปัญญาข้ามันเหมือนกับมาเรียหรือเนี่ย"
ได้ยินแบบนั้นนางก็ปรี๊ดแตกเล็กน้อย นางคิดว่าสิ่งที่นางสร้างมันคือสิ่งที่ไม่มีเทพองค์ใดสามารถทำได้แล้ว แต่อัจฉริยะเทพอีกองค์อย่างมาเรียกลับสร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้ก่อนนางแล้วหรือนี่
แต่นางก็ไม่ได้รู้เลยว่า ความรู้พวกนี้ มันก็มาจากมหาเทพที่นั่งอยู่ตรงหน้านี่แหละ
"แล้ว . .. สิ่งพวกนี้เกินความสามารถท่านหรือไม่"
"ถ้ามันเป็นภาพฝาผนังโบราณ ก็ไม่ยาก แต่ข้าคิดว่ามันคงไม่ใช่อะไรแบบนั้นใช่หรือไม่"
มหาเทพหนุ่มตรงหน้ายิ้มออกมาเล็กน้อย เหมือนนางจะหัวเร็วใช้ได้ เขาหันจอสี่เหลี่ยมกลับมาและกดลงที่ปุ่มมากมาย
"ท่านมหาเทพ นี่มัน-"
ทันใดนั้นเอง ความรู้แปลกๆ มากมายที่นางไม่รู้มาก่อนก็เข้าหัวนาง แม้จะประหลาดใจกับสิ่งที่ได้มา แต่กลับยิ้มออกมาเสียอย่างนั้น
"ไม่เกินความสามารถท่านใช่หรือไม่"
"แน่นอนท่านมหาเทพ ข้าจะใช้ความรู้ที่ได้มานี้อย่างสุดความสามารถ"
สิ้นเสียงนาง รอบๆ ที่เคยมืดมิดก็กลายเป็นหอสมุดขนาดใหญ่ยักษ์ที่สูงไร้ยอด
"งั้นข้าจะรอนะ"
เขายิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหายไปราวกับภูติผี ปล่อยให้นางเริ่มจัดการกับสิ่งที่นางได้รับมอบหมายมา
ณ บ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง บริเวณหน้าบ้านนั้น หญิงสาวที่มีใบหน้าสะสวยนางหนึ่งได้ยังม้าโยกที่หน้าบ้านของนาง ในอ้อมแขนของนางก็มีเด็กน้อยน่าชังคนหนึ่งนอนหลับอยู่ แต่นางและลูกน้อยของนางกลับมีเขาและหางด้วย บ่งบอกชัดเจนว่าเผ่าพันธุ์ของนางไม่ใช่มนุษย์
ทันใดนั้นเอง ร่างของเด็กหนุ่มวัยรุ่นก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ นาง เขาคือมหาเทพคนนั้นนั่นเอง
"เอ้า ว่าไงหนูน้อย"
เขาหันลงมาทักทายเด็กน้อยด้วยรอยยิ้ม เด็กน้อยค่อยๆ ลืมตาขึ้นและมีปฏิสัมพันธ์กับเขาเล็กน้อย แต่เหมือนว่าผู้เป็นแม่ของนางจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย
"ว่าไงจ๊ะลูกแม่" นางคุยกับลูกน้อยของนาง หยอกล้อกันเล็กน้อย โดยมีมหาเทพยืนมองอยู่ใกล้ๆ
"มองเห็นผมด้วยสินะ เห็นว่าพวกสัตว์กับเด็กทารกมักจะมองเห็นสิ่งที่ไม่ควรด้วยนี่นะ"
มองไปรอบๆ ที่ตรงนั้นไม่ได้มีเพียงแค่สองแม่ลูกเท่านั้น แต่ยังมีสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยอีกสองถึงสามตัว ซึ่งเหมือนว่าพวกมันจะมองเห็นเขาด้วย
"ถือว่าหนูโชคดีที่เห็นผมนะ เอาเป็นว่าผมจะให้ของขวัญหน่อยแล้วกัน"
อุปกรณ์สี่เหลี่ยมเล็กๆ ปรากฏที่มือของเขา เขากดลงไปที่มันอยู่เล็กน้อย ก่อนจะหันมายิ้มให้กับเด็กน้อย
"มันอาจจะดีหรือไม่ดีกับหนูก็ได้นะ แล้วแต่โชคชะตาจะกำหนดแล้วล่ะ ยังไงก็- ไว้เจอกันนะ"
ก่อนจะหายไป เขาก็ก้มลงจูบที่หน้าผากของเด็กน้อย แล้วร่างนั้นก็แตกออกเป็นหิ่งห้อยนับหลายร้อยตัว
เรื่องราวแห่งการผจญภัยได้เริ่มขึ้นแล้ว
.
.
.
บทแรกของหน้ากระดาษ
ภารกิจคืนสู่เหย้า
ความคิดเห็น